top of page

บันทึกล่าแสงตะวัน กับ ชีวิตที่เปลี่ยนไป

  • รูปภาพนักเขียน: Pikmy Pymik
    Pikmy Pymik
  • 1 วันที่ผ่านมา
  • ยาว 1 นาที
chasing the sunlight

ไปสะดุดหนังสือเล่มนึง ที่ผ่านไปอ่านมา เมื่ออ่านจบแล้วก็รู้สึกว่า มีความคิดหลายๆ อย่างเปลี่ยนไป ทั้งๆ ที่เป็นเนื้อหาที่มีคนพูดมาหลายคน แต่เผอิญคุณนักเขียนคนนี้ เป็นคนที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่สุดท้ายแล้วคำตอบของชีวิตเค้า เรียบง่ายและใกล้ตัวเกินกว่าที่คนทั่วไปจะใส่ใจ


ไล่ตามแสงตะวัน: ชีวิตที่เปลี่ยนไปเพราะความตายที่ใกล้เข้ามา

บทความนี้ จะสรุปหนังสือของคุณ Eugene O’Kelly ชื่อ Chasing Daylight แบบสั้นๆ เข้าใจง่าย ซึ่งเมื่ออ่านจบแล้วรู้สึกได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวเรามากและเข้ากับหลักคำสอนชาวพุทธที่พวกเราได้ยินได้ฟังมาตลอด


เรื่องราวทั้งหมดโดยย่อ บันทึกช่วงสุดท้ายชีวิตของคุณ Eugene O’Kelly ซึ่งเป็นอดีต CEO, KPMG ที่ใช้เวลาทั้งชีวิตทุ่มเทเพื่อการทำงาน เพื่อความก้าวหน้า ให้อยู่ในจุดสุดสุดของอาชีพการงาน แต่ดูเหมือนว่าชะตาไม่ได้ใจดีกับเค้าเท่าไหร่ เมื่อเค้าพบว่าต้องรับมือกับมะเร็งสมองระยะสุดท้ายและมีเวลาเหลืออยู่เพียงไม่กี่เดือน มีการเล่าเรื่องราวการเดินทางของเขาจากชีวิตแห่งความสำเร็จเป็นผู้ที่ยอมรับความตายอย่างสงบ และเลือกใช้เวลาที่เหลืออยู่ด้วยความตั้งใจ และสติ  ข้อคิดทั้งหมดสะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าของเวลา เรียงความสำคัญ และภาพลวงตาของการควบคุมทุกสิ่ง ซึ่งล้วนสอนบทเรียนสำคัญเกี่ยวกับสิ่งที่มีค่าจริงๆ ในชีวิต  


4 เรื่องสำคัญจากที่ได้อ่าน  


1. เวลาเป็นทรัพยากรที่มีจำกัด ใช้มันอย่างฉลาด  

คุณเคลลี่บอกว่า เค้าตระหนักเรื่องนี้ช้าเกินไป เค้าได้ละเลยช่วงเวลาอันมีค่าหลายอย่างเพื่อความสำเร็จในอาชีพ จนเมื่อได้รับวินิจฉัยโรคร้าย ทำให้เค้ารู้ว่า "เวลา" คือทรัพยากรที่มีจำกัด และมันมีค่าที่สุด  

2. การมีสติสำคัญกว่าผลผลิต  

ในช่วงวิกฤติ เค้าบอกว่าแทนที่จะรีบเร่งผ่านชีวิต (เช่นรีบทำอะไร ที่ไม่เคยทำ ในช่วงเวลาที่เหลือน้อยลงทุกที) เค้าเรียนรู้ที่จะอยู่กับปัจจุบันอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นในธรรมชาติ การพูดคุยกับครอบครัว หรือการนั่งใคร่ครวญอย่างเงียบๆ  

3. พลังของการ "ปล่อยวาง" ความสัมพันธ์  

เค้าใช้เวลาที่เหลือ ตั้งใจกล่าวลาคนใกล้ชิดอย่างมีความหมาย หลังจากที่ได้วาดแผนผังคนใกล้ตัวไปถึงคนที่รู้จักรอบๆ ตัว เค้าค้นพบว่า เค้าให้เวลากับคนในวงกลมใกล้ตัวน้อยถึงน้อยมาก เค้าจึงใช้เวลาที่เหลืออย่างมีคุณค่า เพื่อไม่ให้มีเรื่องค้างคาใจหรือความรู้สึกที่ไม่ได้รับการแก้ไข  

4. การยอมรับนำมาซึ่งความสงบ  

แทนที่จะต่อสู้กับความตาย เค้าเรียนรู้ที่จะยอมรับมัน ซึ่งทำให้เขาใช้ชีวิตในวันสุดท้ายอย่างสง่างามและมีจุดหมาย  


อ่านแล้วมองตัวเอง  

1. ทบทวนและเรียงลำดับความสำคัญของชีวิตตัวเองใหม่ โดยการถามตัวเองว่า เราใช้เวลาไปกับสิ่งสำคัญจริงๆ ใช่รึเปล่า  

2. ฝึกสติ ให้อยู่กับปัจจุบัน ให้ช้าลง และสนุกกับความสุขเล็กๆ น้อยๆ รอบตัวบ้าง  

3. รักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับคนใกล้ตัว ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน คนที่เรารัก อย่ารอให้เกิดวิกฤติถึงเอ่ยคำซาบซึ้งออกมา ให้บอกในตอนที่เรายังพร้อมที่จะส่งมอบทั้งกำลังกายและกำลังใจได้  

4. ใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย หากฝันอย่างทำอะไร อย่าเก็บไว้เพื่อ "เมื่อเราสำเร็จแล้ว เราจะ..." หรือ "สักวันหนึ่ง..."

5. ยอมรับความไม่เที่ยง การตระหนักว่าชีวิตไม่แน่นอนจะช่วยให้เราใช้ชีวิตอย่างรู้คุณค่าและมีสติมากขึ้น  

สุดท้าย เราไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงวาระสุดท้าย หรือ มีเงื่อนไขบังคับ ถึงจะใช้ชีวิตที่เราอยากเป็น เราสามารถไล่ตามแสงตะวันของเราได้ก่อนที่จะสายเกินไป

Comments

Rated 0 out of 5 stars.
No ratings yet

Add a rating

Drop Me a Line, Let Me Know What You Think

Thanks for submitting!

© 2020 by Lost Journey. Proudly created by Pikmy

bottom of page