บันทึกตื่นรู้ จากแผ่นดินไหว
- Pikmy Pymik
- 25 พ.ค.
- ยาว 1 นาที

ผ่านมาแล้ว 1 เดือนหลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งแรกในกรุงเทพ เราอยากเขียนบันทุกตื่นรู้จากเหตุการณ์นั้น ในวันนั้นเราอยู่บนตึกสูง อาคารโยกไปมาแบบต่อเนื่อง เป็นอาการโคลงเคลงบ้านหมุนเหมือนยักษ์เมาเดินโซเซ ใจเราหวิว มือที่กำลังพิมพ์งานหยุดค้างกลางอากาศ นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เรารู้สึกถึงความกลัวจากลึกสุดในหัวใจจริงๆ
ในช่วงที่เกิดแผ่นดินไหว คุณคิดอะไรอยู่?
สามนาทีที่เปลี่ยนทุกสิ่ง
ขณะที่ตึกโยกเยก โคมไฟแกว่งไปมา เวลาดูเหมือนหยุดนิ่ง การอพยพคือความโกลาหล เพื่อนร่วมงานบางคนตื่นตระหนก บางคนตกใจจนตัวแข็ง บางคนร้องไห้ บางคนวิ่งลงจับราวบันไดแน่น ความมึนงงขณะลงบันไดขณะที่ปูนในอาคารยังส่งเสียงปูนแตกแกร๊กๆ ใจเราวิ่งแข่งไปกับความคิด:
"เราใช้เวลากับการตอบอีเมลมากกว่าอยู่กับที่บ้านรึเปล่านะ?"
"ยังไม่เคยเห็นแสงเหนือ ไม่เคยเรียนเซิร์ฟ ไม่เคยบอกเพื่อนว่าเรารู้สึกดีที่มีพวกมันอยู่ข้างๆขนาดไหน"
"ถ้าทางหนีไฟนี้นี้กลายเป็นหลุมศพของเราล่ะ?"
สิ่งที่ตลก คือ ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ เรายังปวดหัวเรื่องการหาลูกค้าอยู่เลย ยังเครียดกับการจัดการปัญหาเรื่องงานที่พลาดไป แต่ตอนนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคืออากาศ ความปลอดภัย และความหวังที่จะได้ยืนบนพื้นดินอีกครั้ง
ภาพลวงตาของ 'ชีวิตปกติ'
หลังจากใช้เวลาสักพัก ออกมานอกตัวตึกและรู้สึกปลอดภัยดีแล้ว ความวุ่นวายในวันนั้นค่อยๆ คลี่คลายในวันเดียว ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อสื่อสาร คมนาคมต่างๆ ในกรุงเทพ
ผ่านไปเพียง 1-2 วัน สำหรับเรามองว่าแปลก คือ เราทุกคนทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ร้านกาแฟเปิดตามปกติ การประชุมงานเริ่มในวันรุ่งขึ้น เสียงหัวเราะกลับมาเหมือนเดิม
...
แต่เรากลับมีคำถามที่ค้างในใจ จนต้องถามตัวเองอีกทีว่า
-เราใช้เวลากับสิ่งที่ไม่สำคัญไปกี่ชั่วโมงแล้ว ถ้าวันนี้คือวันสุดท้ายของชีวิต?
-ครั้งสุดท้ายที่เรากอดใครอย่างจริงใจคือเมื่อไหร่?
-การผลัดวันจากการต้องทำอะไรซักอย่าง ที่บอกว่า 'สักวัน'?
ไม่รู้ว่ามีใครทำเหมือนเรามั้ย เราตั้งกฎบางอย่างให้ตัวเอง เพื่อที่จะได้ไม่ลืมเหตุการณ์วันที่กลัวจับใจ และกลับมาให้ความสำคัญของเวลา โอกาส และคำพูด
กฎ 1-1-1
ลองคุยกับเพื่อนแบบ deep talk กับเพื่อน หรือกับครอบครัว (ถ้าทำได้) 1 ครั้งต่อสัปดาห์ (แบบห้ามใช้มือถือ)
เขียนจดหมายด้วยมือ 1 ฉบับต่อเดือนถึงคนที่มีความสำคัญในชีวิต (เก็บไว้อ่านคนเดียวก็ได้ หรือถ้ากล้าพอ ก็ส่งออกไปเลยจ้า)
บอกความรู้สึกที่ตัวเองรู้สึกเปราะบางทุกวัน ยอมรับความเป็นตัวเอง
ทำกิจกรรม "สักวันหนึ่ง"
นั่งรถไฟตี 5 ไปหัวหินเพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้น แล้วกลับมากินข้าวเย็น
ลองไปบาร์ลับในกรุงเทพ รับบทเป็นนักท่องเที่ยว
มาถึงตรงนี้ เรามักคิดว่าเรามีเวลาแบบไม่จำกัด... จนกว่าจะมีเหตุการณ์บางอย่างเตือนว่าเราไม่มี ซึ่งความลับที่ไม่ลับ คือ เราไม่จำเป็นต้องรอให้มีภัยพิบัติถึงจะกลับมาคิดและใช้ชีวิตในแบบที่เราต้องการ เราต้องหยุดทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของเวลาตลอดกาล
เริ่มต้นด้วยคำถามเดียว: ถ้าแผ่นดินไหววันนี้คือครั้งใหญ่ที่สุด - อะไรคือสิ่งที่เราจะเสียดายที่สุดที่ไม่ได้ทำ?
Comments