top of page

คู่มือเอาตัวรอดในเกมวัย 40+

  • รูปภาพนักเขียน: Pikmy Pymik
    Pikmy Pymik
  • 24 ส.ค.
  • ยาว 1 นาที
handbook for 40+
Handbook for 40+

ถ้ามองชีวิตเราคือเกม สำหรับวัยรุ่นปวดหลัง จำเป็นต้องพกคู่มือเอาตัวรอดในเกมวัย 40+ ติดตัวมาด้วย ในขณะที่อายุเฉลี่ยของพวกเรายาวขึ้น แต่บริษัทในไทย ขอกดปุ่ม "Game Over" ให้พนักงานตอนอายุแค่ 45 ปี แบบไม่ได้ไปต่อ แปลว่าเราจะเหลือเวลาเล่นเกมชีวิตแบบไม่มีเงินเดือนอีกเกือบ 40 ปีเลยนะ


เมื่อมองไปที่ประเทศอื่น เค้ามีความพยายามปรับกติกาให้คนทำงานนานขึ้น แต่บ้านเรากลับเหมือนจะให้หยุดเกมเร็วขึ้นซะงั้น ดังนั้น ทางรอดเดียวของเราคือต้อง "สร้างเกมใหม่" ก่อนจะโดนบอสกดหยุดเกม


"สร้างเกมใหม่" เป็นทางรอดในเส้นทางของวัยรุ่นปวดหลัง

ประเทศอื่นที่บอกด้านบน มีตัวอย่างเช่น 


  • สิงคโปร์ - ไม่มีปัญหาเรื่องระบบบำนาญ แต่นายจ้างต้อง “เสนอโอกาส” ให้พนักงานที่อายุถึงเกณฑ์ได้ทำงานต่อจนถึงอายุ 68 ปี ถ้าคนนั้นยังมีความสามารถและสุขภาพแข็งแรงอยู่

  • ฝรั่งเศส - ระบบบำนาญของรัฐกำลังขาดทุนหนักมาก มีคนแก่มากกว่าคนทำงานที่จ่ายภาษี รัฐบาลไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องให้คนทำงานนานขึ้นเพื่อแบกระบบง่อยเอาไว้ ไม่ต่างจากไทยเท่าไหร่

  • สวิตเซอร์แลนด์ - เงียบแต่โหด ในขณะที่คนแก่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ระบบบำนาญของรัฐบาล (ที่เรียกว่า AHV) มีเงินไม่พอจ่ายในอนาคต การยืดอายุเกษียณจาก 65 ไป 67 ปี คือวิธีแก้ที่ตรงจุดเพื่อแบกระบบเอาไว้ 

  • เดนมาร์ก - มีระบบยืดหยุ่น ไม่มีการกำหนดอายุเกษียณที่ตายตัว คือถ้าพบว่าอายุเฉลี่ยของคนในประเทศมีอายุยืนขึ้น 1 ปี อายุเกษียณก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย 1 ปีโดยอัตโนมัติ ก็คือทำงานไปจนตายของจริง


เอาล่ะ แล้ววัยรุ่นปวดหลังวัย 40+ จะทำยังไงดี? คำตอบคือ ต้องสร้าง "เกมใหม่" ของตัวเองให้ได้ก่อนอายุ 45 ปี โดยใช้หลักการง่าย ๆ ที่เราไปหาข้อมูลมาให้:

1. พักเรื่องสถานะ เปลี่ยนเป็นเรียนรู้พื้นฐานการเงิน 

  • พัก: การโชว์สถานะ (เช่น รถหรู, กระเป๋าแพง) ที่ต้องทำให้ดูรวยในสายตาคนอื่น

  • ทำ: สร้าง "ความมั่งคั่ง" ซึ่งหมายถึงการซื้อหรือลงทุนในทรัพย์สิน (Asset) ที่ทำงานหาเงินแทนเราได้ แม้ตอนเราหลับ เรียนรู้การบริหารการเงินอย่างน้อยขั้นพื้นฐานที่ควรมี

ลองคิดดูนะ ถ้าวันหนึ่งเราต้องตกงาน คงไม่ได้อยากมีของใหม่เพื่อให้คนอื่นดู แต่จะสบายใจเมื่อยังมีเงินไหลเข้าบัญชีเราทุกเดือนโดยไม่ต้องทำงาน 


2. สร้าง “ตัวช่วย” ให้แบกงานหนักแทนเรา

  • พัก: ความคิดที่ว่า “ยิ่งทำยิ่งรวย” อาจจะไม่เป็นแบบนั้นอีกแล้ว 

  • ทำ: หา "ตัวคูณ (Leverage)" ที่จะทำให้เราทำงานแบบน้อยแต่แต่(ได้ผลลัพธ์)มากขึ้น คือ:

    1. ใช้แรงงานคนอื่น: สร้างทีมหรือระบบให้ช่วยทำงาน

    2. ใช้เงินทำงาน: ให้เงินที่เราไปลงทุนเพื่อปั้มรายได้เพิ่มขึ้น

    3. ใช้สื่อหรือ Ai : สร้างคอนเทนต์ (เช่น คลิปวิดีโอ) หรือเขียนโปรแกรมที่สามารถสร้างรายได้ได้ไม่จำกัด

    4. ใช้เงินพ่อแม่: ไม่ได้!!

คนที่รอดในระยะยาวไม่ใช่คนที่ทำงานเก่งที่สุด แต่เป็นคนที่ฉลาดหาตัวช่วยทำงานแทน


3. สร้าง “ความรู้พิเศษ” ที่ใครก็ลอกเลียนแบบไม่ได้

  • พัก: การเดินรอยตาม และเรียนตามคนอื่น หรือทำในสิ่งที่คนอื่นทำกันเยอะแล้ว

  • ทำ: ค้นหา "ความรู้พิเศษ (Specific Knowledge)" ของตัวเอง มันคือทักษะที่มาจากการที่เราอยากรู้อยากเห็นในเรื่องที่เรารักและสนใจจริง ๆ ลองหาว่าเราชอบอะไรเป็นพิเศษ แล้วลงลึกในเรื่องนั้น ๆ ให้กลายเป็นความรู้ที่ใครก็มาขโมยไปไม่ได้


4. ตัดสินใจให้ดี สำคัญกว่าการทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำ

  • พัก: การทำงานหนักจนหมดไฟ

  • ทำ: ใช้ประสบการณ์เป็นเข็มทิศ เพิ่มทักษะการตัดสินใจทำงานแบบฉลาด ทุ่มกำลังไปกับ 20% เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ 80% 


5. เล่นเกมยาวกับคนที่คิดยาว

  • พัก: การเปลี่ยนงาน เปลี่ยนธุรกิจ หรือเปลี่ยนเป้าหมายบ่อย ๆ เพราะมันจะทำให้เราต้องเริ่มต้นใหม่ตลอดเวลา

  • ทำ: เน้นความสัมพันธ์และเล่น "เกมระยะยาว" กับคนหรือธุรกิจที่เราเชื่อมั่น เพราะความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ส่วนใหญ่มาจากการสะสมผลลัพธ์ในระยะยาว



สุดท้าย อยากจะบอกว่า เมื่อเราอายุ 45 ปีแล้วถูกเลิกจ้าง มันอาจไม่ใช่จุดจบของชีวิต แต่มันอาจจะเป็น "จุดเริ่มต้น" ของเกมใหม่ ที่เราจะได้เป็นตัวบอสของเกมนั้นเองอย่างแท้จริง

ความคิดเห็น

ได้รับ 0 เต็ม 5 ดาว
ยังไม่มีการให้คะแนน

ให้คะแนน

Drop Me a Line, Let Me Know What You Think

Thanks for submitting!

© 2020 by Lost Journey. Proudly created by Pikmy

bottom of page