อนาคตของพวกเรา และสงครามโลกครั้งที่ 3

WW3 is happening

ลองจินตนาการว่าอีก 2 ปีข้างหน้าจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ขึ้น มันอาจจะดูเป็นเรื่องไกลตัวที่เราเห็นแค่ข่าวคนยิงกันในอีกซีกโลก แต่ในความเป็นจริง เหมือนจะไม่ได้เป็นเรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งที่อนาคตของพวกเราต้องเจอ 

สงครามโลกครั้งที่ 3 จะเกิดขึ้นจริงเหรอ ? แล้วถ้าจริงขึ้นมาจะเป็นยังไง ?

จะเริ่มจากสิ่งที่ไกลตัวก่อน หากว่าเกิดสงครามจริงๆ จะกระทบหลายด้านเลย เริ่มจากแนวโน้มที่โลกกำลังจะเปลี่ยนจาก Globalization เป็น Regionalization ซึ่งหลายประเทศ หันมาให้ความสำคัญกับการผลิตภายในประเทศ (reshoring) ซึ่งหมายความว่าการค้าระหว่างประเทศจะสิ้นสุดลงโดยสิ้นเชิง มีกลุ่มอำนาจทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นมาแข่งกันอย่างชัดเจน 

สงครามโลกครั้งที่ 3: จะไม่ใช่แค่การรบด้วยการยิงอย่างเดียว

มองย้อนกลับไปนิดเดียว เมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและสอง ที่แต่ละประเทศจุดชนวนยิงบูม บูม อันอย่างรุนแรงคนตายมากมาย ด้วยอาวุธสงคราม แต่ครั้งที่สามนี้จะมีรูปแบบที่แตกต่างออกไป มันจะไม่ตู้มตามโต้งๆ แบบที่ผ่านมา แต่จะค่อยๆ แทรงซึมมาในรูปแบบของ "สงครามตัวแทน" (Proxy War) ที่มหาอำนาจยืนสนับสนุนใช้ประเทศอื่นเป็นสนามรบเพื่อแสดงแสนพลังและเลือกเข้าทีม 

อีกสิ่งที่เราต้องคิดหนักคือ คือ ครั้งที่สามจะเป็น "สงครามสมอง" ที่เทคโนโลยีและข้อมูลข่าวสารจะเป็นอาวุธที่ร้ายกาจที่สุด สงครามไซเบอร์จะโจมตีระบบไฟฟ้า ระบบการเงิน และเครือข่ายสื่อสาร ทำให้สังคมปั่นป่วนจนไร้ซึ่งความสามารถในการตอบโต้ นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงจาก "อาวุธทำลายล้างสูง" อย่างอาวุธนิวเคลียร์ที่หลายประเทศเก็บไว้เป็นไพ่ตาย

เราจะสนใจไปทำไม?

ก็แค่อยากให้เข้าใจว่าตอนนี้เรื่องรอบตัวของพวกเราเกิดอะไรขึ้น และสิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบกับทุกคน คนที่เริ่ม “ตระหนัก” และ “เตรียมตัว” ก่อน ผู้ที่พร้อมรับมือที่สุดคือผู้ที่มีความยืดหยุ่นและปรับตัวได้

สิ่งที่เราทุกคนทำได้คือ:

1. งานในอนาคต เรียนรู้ทักษะดิจิทัลที่ "จำเป็น" หากอินเทอร์เน็ตบางส่วนล่มหรือถูกจำกัด การสื่อสารอาจต้องพึ่งพาระบบสำรอง ทักษะด้านการเอาตัวรอดทางไซเบอร์และการหาช่องทางการสื่อสารใหม่ๆ จะเป็นประโยชน์อย่างมาก 

2. เตรียมความพร้อมด้านการเงิน การมีเงินสำรองฉุกเฉินและกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายจะช่วยให้เรามีภูมิคุ้มกันในภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน มีเงินสดติดตัวไว้ยามจำเป็น

3. หัดรู้จักเพื่อนบ้านตัวเอง ในช่วงที่การสื่อสารออนไลน์อาจถูกจำกัด คนที่อยู่ใกล้ตัวคือผู้ที่พร้อมจะช่วยเหลือคุณได้มากที่สุด การพึ่งพากันและกันในยามวิกฤตเป็นสิ่งจำเป็น การสร้างเครือข่ายที่ดีกับเพื่อนบ้านและชุมชนจะช่วยให้เราอยู่รอดได้ 

4. สำรวจ "ทำเล" แห่งอนาคต: ลองคิดดูว่าหากเกิดวิกฤต ที่ไหนคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด อาจไม่ใช่ใจกลางเมืองที่ความแออัดสูงและต้องพึ่งพาระบบสาธารณูปโภคมากเกินไป แต่เป็นพื้นที่ที่สามารถพึ่งพาตัวเองได้มากขึ้น

5. อย่าเชื่อทุกข่าวที่เห็น ให้ตรวจสอบข้อมูลจากหลายแหล่งและใช้สติในการพิจารณา

สงครามโลกครั้งที่สามไม่ใช่เรื่องที่น่าปรารถนา แต่การมองเห็นความเป็นไปได้ของมัน คืออาจจะเป็นความคิดที่ดีและมีความปลอดภัยในอนาคต