สมองกำลังขี้เกียจอยู่รึเปล่า
- Pikmy Pymik
- 22 มิ.ย.
- ยาว 1 นาที

อยากถามทุกคนว่า ในยุค ai ที่ทุกคนต้องปรับตัวใช้เครื่องมือใหม่ๆ กันอย่างสนุกสนาน เคยมีใครถามตัวเองบ้างมั้ยว่า ครั้งสุดท้ายที่เขียนบทความหรือเขียนอะไรซักอย่าง จากต้นจนบจบด้วยความคิดของตัวเองล้วนๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่ มีใครเอ๊ะบ้างมั้ย ว่าสมองกำลังขี้เกียจอยู่รึเปล่า และถ้าคุณกำลังพยายามนึกอยู่ คุณไม่ได้เป็นคนเดียว
ล่าสุดนักวิจัยจากนักเรียน MIT (อ่านวิจัยต่อ คลิก) ค้นพบข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ AI ส่งผลต่อสมองของเราในระยะยาว
วิจัยพบว่าใช้ ChatGPT ทำให้สมองฝ่อ

ผลกระทบกับวิธีคิด
ลองนึกภาพตาม ถ้าเรากำลังเขียนอีเมลสำคัญ หรือบทความชิ้นนึง เมื่อสองปีก่อน เราอาจจะ:
จ้องหน้ากระดาษโล่งๆ ด้วยสายตาที่ว่างเปล่าอยู่พักใหญ่
ทรมานกับการหาคำพูดสวยๆ เขียนวนๆ อีก 2 รอบ
อาจจะเขียนแบบห่วยๆ ออกมา 3-4 รอบ ก่อนจะกลับมาแก้ไขที่ฉบับแรก
ตอนนี้ เพียงพิมพ์คำสั่งง่ายๆ ลงไปใน ChatGPT เราก็จะได้บทความหรืออีเมลในเวอร์ชั่นที่สวยหรูในไม่กี่วินาที สุดยอดไปเลยใช่รึเปล่า? แต่ระยะยาว เราอาจจะไม่ได้สังเกตสิ่งที่จะเกิดขึ้น คือ
สมองจะหยุดออกกำลังกาย ทุกครั้งที่เราต้องเริ่มคิด หรือว่าเริ่มเขียนอะไรซักอย่าง นั่นคือ เรากำลังออกกำลังกายและสร้างเส้นทางประสาทในสมอง มันเหมือนกับการยกเวทให้สมองนั่นแหละ พอ AI มาช่วยยกของหนัก กล้ามเนื้อสมองด้านความคิดเหล่านั้นก็เริ่มง่อยลง ความทรงจำที่หายไป จากวิจัย บอกว่า “เราจำสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น เมื่อเราเป็นคนสร้างมันขึ้นมาเอง” ส่วนเนื้อหาที่ AI ทำให้ มันจะเลือนหายไหลออกจากสมองเหมือนลมที่ผ่านหูไปเลย เพราะสมองเราไม่ได้ออกแรงสร้างมันขึ้นมา กับดักความคิด ยิ่งเราอยากได้คำตอบที่แสนไฮโซสวยหรูจากมากเท่าไหร่ ความคิดของเราเองก็จะมีแนวโน้มเลียนแบบกรอบและรูปแบบของเนื้อหาของ AI มากเท่านั้น หากว่ามีการใช้งานสมองด้านความคิดรูปแบบนี้บ่อยๆ ความสร้างสรรค์และการคิดนอกกรอบจะกลายเป็นเรื่องยากขึ้นเรื่อยๆ
จะสนใจไปทำไม?
จั่วหัวเรื่องการเขียน แต่ไม่ใช่หมายถึงแค่เรื่องการเขียนเท่านั้นนะ แต่มันเกี่ยวกับการทำงานของสมองด้านการใช้ความคิดเต็มๆ เช่น ถ้าให้อธิบายความคิดเชิงซ้อนในห้องประชุม แบบไม่ใช้ AI หรือ การจดจำเนื้อหาและเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ แบบไม่ใช้ AI สรุป เป็นต้น
จากวิจัยล่าสุดของ MIT พบว่าคนที่พึ่งพา AI ในการทำงานมากเกินไป จะ…
จดจำเนื้อหาของตัวเองได้แย่ลง 40%
ความสามารถในการพัฒนาด้านความคิดและวิเคราะห์เชิงซับซ้อนลดลง
มีความกังวลเพิ่มขึ้นเมื่อถูกขอให้ใช้ความสามารถส่วนตัวโดยไม่พึ่งพา AI
แล้วจะใช้ยังไง ไม่ให้เสียสมดุลของสมอง
ที่อ่านมานี่ วิจัยไม่ได้บอกว่าห้ามใช้นะ แต่ว่าให้ใช้เพื่อเป็นตัวเสริมความสามารถของสมอง เรามีมาแนะนำ 3 วิธี
1. กฎของสมอง 30% ให้ลองร่างความคิดด้วยตัวเอง 30% แล้วค่อยพึ่ง AI เช่น ลองร่างประเด็นหลักที่ต้องการสำหรับส่งอีเมลก่อนที่จะใช้เครื่องมือ เป็นต้น
2. ทดสอบ "การอธิบายแบบไหลย้อนกลับ" หลังจากได้ข้อมูลจาก AI แล้ว ให้ลองปิดแชด แล้วอธิบายเนื้อหาด้วยคำของตัวเอง และลองสังเกตว่าติดขัดตรงไหน ตรงนั้นแหละคือช่องว่างที่หายไป ให้ลองทดสอบการไหลย้อนอีกรอบ
3. รับบทนักแก้ แทนบทผู้รับอย่างเดียว หลังจากได้ข้อมูลจาก AI แล้ว ให้เขียนใหม่ให้เป็นสไตล์ของตัวเองอย่างน้อย 30% แล้วลองพูด ลองทวนถามตัวเองว่า: "นี่มันอ่าน/ฟังดูเหมือนคำพูดของเรารึเปล่า” หากว่ายังไม่เป็นแบบของตัวเอง ให้เพิ่มตัวอย่างและประสบการณ์ส่วนตัวเข้าไป
สมอง…ของมีค่าที่ควรรักษา
ถ้าเปรียบสมอง เป็นรถยนต์ที่มีสมรรถนะสูง และ AI เป็นระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติที่โคตรเก่ง แต่ถ้าเราไม่ขับเอง เราจะลืมวิธีขับที่ถูกต้องและปลอดภัย เวลาที่จะต้องใช้จริงมันจะใช้ไม่ได้เหมือนเดิม หากว่าจะใช้ ไม่ได้แปลว่าต้องใช้ให้มากที่สุด ที่จริงแล้วต้องใช้อย่างมีกลยุทธ์มากที่สุดต่างหาก
ลองสังเกตตัวเองดู
Comentarios